ขายไทยคาดเริ่ม 6xx,xxx บาท กันยายนนี้ SUZUKI FRONX Mild HYBRID ใหม่


Suzuki Fronx SUV คูเป้รุ่นใหม่ พร้อมบุกตลาดอินโดนีเซีย 28 พฤษภาคม 2025 สำหรับประเทศไทยกันยายนนี้คาดเริ่ม 6xx,xxx บาท




  • SUZUKI ประเทศไทยประกาศแผนงานจำหน่ายรถยนต์ในประเทศปี 2025 ทั้งไฮบริด และ ไฟฟ้าล้วน ด้วยการนำเข้าจากอินโดฯ และ อินเดีย สำหรับบ้านเราจะเปิดตัว SUZUKI FRONX คาดนำเข้าอินโดฯ 


Suzuki Fronx คือ SUV ขนาดคอมแพกต์รุ่นใหม่จาก Suzuki ที่มาพร้อมสไตล์ “Coupe SUV” ล้ำสมัย เปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2025 และเตรียมวางจำหน่ายในอินโดนีเซียวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ โดยจะประกอบในประเทศที่โรงงาน Cikarang, ชวาตะวันตก แสดงถึงความมุ่งมั่นของ Suzuki ในการเจาะตลาด SUV คอมแพกต์อย่างจริงจัง สล็อต พา รวย 168



จุดเด่นหลักของ Suzuki Fronx



  • ดีไซน์สปอร์ตแนวคูเป้ที่แปลกตาแต่ลงตัว

  • ตัวถังขนาดกะทัดรัด แต่มีความสูงจากพื้นถึง 210 มม.

  • ฟีเจอร์ทันสมัย รวมถึงระบบ Mild Hybrid (เฉพาะบางรุ่น)

  • เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง และออปชันครบครันในรุ่นสูงสุด

  • หมุนกลับในที่แคบได้ง่าย ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแค่ 4.8 เมตร

  • มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter


ภายนอก – สปอร์ต คูเป้ แต่ยังคงความแกร่งแบบ SUV



  • หลังคาลาดลงด้านหลังแบบรถคูเป้ ให้ลุคสปอร์ต

  • ซุ้มล้อและตัวถังดูกล้ามชัด มีชุดกันกระแทกรอบคัน

  • กระจังหน้าใหญ่พร้อมโครเมียม ไฟหน้า-ท้ายแบบ LED ทั้งชุด

  • ล้ออัลลอย 16 นิ้วดีไซน์ทูโทน

  • สีตัวถังมีให้เลือกหลายสี พร้อมตัวเลือกแบบหลังคาสีดำ (เฉพาะรุ่น SGX)


ภายใน – กว้างขวาง หรูหรา พร้อมเทคโนโลยี



  • แดชบอร์ดดีไซน์โมเดิร์นแบบสองโทน (ดำ/แดงเข้ม)

  • วัสดุ Soft-touch บริเวณแดชบอร์ดและแผงประตู

  • รุ่น SGX ใช้เบาะผ้าผสมหนังสังเคราะห์ ส่วนรุ่นรองใช้เบาะผ้าล้วน

  • พื้นที่โดยสารกว้างพอแม้ผู้โดยสารสูง 173 ซม.

  • พื้นที่เก็บสัมภาระ 308 ลิตร และพับเบาะได้ราบ

  • จอสัมผัส 9 นิ้ว (รุ่น GX, SGX) รองรับ Apple CarPlay / Android Auto

  • รุ่น SGX มี Head-Up Display (HUD) และ Wireless Charger

  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์หลัง

  • ปุ่มสตาร์ต, Keyless Entry, Adaptive Cruise Control (SGX)

  • Paddle Shift และกล้องรอบคันในรุ่น SGX


รุ่นย่อยในอินโดนีเซีย




  1. GL (พื้นฐาน)





    • เครื่องยนต์ 1.5L K15B (ไม่มี Hybrid)




    • ฟีเจอร์พื้นฐานครบ ใช้งานได้จริง




    • สีตัวถังแบบโมโนโทน ล้ออัลลอยสีเงิน






  2. GX (กลาง)





    • เครื่องยนต์ 1.5L K15C + Mild Hybrid (SHVS)




    • ไฟหน้า LED, จอ 9 นิ้ว, สีตัวถังสวยขึ้น




    • ไม่มี HUD และฟีเจอร์ ADAS






  3. SGX (ท็อปสุด)





    • เครื่อง 1.5L Mild Hybrid + เกียร์อัตโนมัติ




    • ฟีเจอร์จัดเต็ม: HUD, Wireless Charger, กล้อง 360°, ADAS




    • ระบบความปลอดภัยครบชุด เช่น ACC, AEB, Lane Assist, Blind Spot




    • ถุงลมนิรภัย 6 จุด






ขุมพลัง – 1.5 ลิตร แรงพอตัวและประหยัด



  • K15B (GL): 104–105 PS / 138 Nm – ทนทาน ใช้แพร่หลายใน Ertiga, Jimny

  • K15C Mild Hybrid (GX, SGX): 100–102 PS / 135 Nm – มี ISG และแบตฯ เสริมแรงบิดช่วงออกตัว, ประหยัดน้ำมันมากขึ้น, เงียบ, ลดมลพิษ


การขับขี่ – ลื่นไหลในเมือง มั่นใจนอกเมือง



  • พวงมาลัยไฟฟ้าน้ำหนักดี

  • ระบบกันสะเทือนหน้า MacPherson / หลัง Torsion Beam

  • แพลตฟอร์มพื้นฐานจาก Baleno ทำให้เกาะถนนดี

  • รัศมีวงเลี้ยว 4.8 ม. เข้าออกซอยแคบสบาย

  • รุ่น SGX มี Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยลดความเหนื่อยล้า


ข่าวการขึ้นทะเบียนรหัส Suzuki Fronx ในฐานข้อมูล NJKB ของกรมการขนส่งทางบกของอินโดฯ ในช่วงต้นปี 2025 นี้ เป็นข่าวดีที่ทำให้แฟน ๆ รถยนต์ โดยเฉพาะผู้ที่รอคอย Fronx ในประเทศอินโดฯ ต่างตื่นเต้นและจับตามองอย่างใกล้ชิด รหัสที่ถูกจดทะเบียน เช่น A3L415F บ่งชี้ว่า Suzuki กำลังจริงจังที่จะนำรถ SUV ขนาดเล็กรุ่นนี้เข้ามาทำตลาดในไทย โดยมีการจดทะเบียนรุ่นย่อยหลากหลาย

รหัสรุ่นย่อย HX และ HS ของ Fronx มีความน่าสนใจ เพราะ Suzuki ใช้รหัสเดียวกันนี้กับรุ่น mild hybrid อย่าง Ertiga และ XL7 ในปัจจุบัน ซึ่งถ้าหากแนวโน้มนี้ยังคงต่อเนื่อง นี่อาจเป็นสัญญาณว่า Fronx ในอินโดฯจะมีตัวเลือกที่มาพร้อมเทคโนโลยี mild hybrid ด้วย

ในตลาดต่างประเทศ Fronx รุ่น mild hybrid มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งดีกว่าเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดที่ใช้ใน Ertiga และ XL7 ในปัจจุบัน หากตัวเลือกนี้ถูกนำเข้ามาในอินโดฯ จะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Fronx น่าสนใจขึ้นมาก นอกจากนี้ ตลาดญี่ปุ่นยังมีรุ่นที่รองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ซึ่งอาจเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถ SUV ที่รองรับการใช้งานในสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ





หาก Suzuki ประเทศอินโดฯ ต้องการให้ Fronx เป็นรถรุ่นที่มีความสำคัญในตลาด การนำเสนอเครื่องยนต์ K15C พร้อมเทคโนโลยี mild hybrid ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่ Suzuki จะเลือกใช้ K15B เพื่อลดต้นทุนก็ยังมีอยู่ ด้วยข้อมูลการจดทะเบียนล่าสุดนี้ เราอาจจะได้เห็นการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไม่ช้า เตรียมตัวรอข่าวดีจาก Suzuki ได้เลย!

หากดูราคาดังกล่าว ไม่ใช่ราคาจำหน่ายจริงในอินโดฯ หากขายจริงจะบวกเพิ่ม 30% เช่น รุ่น Mild HYBRID เริ่มต้นราคา 194,000,000 Rp sinv 413,000 บาท บวก 30% ขายจริง จะเป็น 252,000,000rp หรือ 537,000 บาท หากขายประเทศไทย จะมีอาจเพิ่มประมาณ 30% หรือเกือบๆ 7 แสนบาท สำหรับเกรดเริ่มต้น

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร “K15C” + มอเตอร์ (มิลด์ไฮบริด)

  • ให้กำลัง 101 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที

  • แรงบิด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที

  • มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 3 แรงม้า

  • แรงบิด 60 นิวตัน-เมตร

  • ระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD

  • ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีต


อัตราประหยัด 2WD



    • อัตราสิ้นเปลือง 19.0 กม./ลิตร WLTC

    • อัตราประหยัดในเมือง 15.1 กม./ลิตร WLTC

    • นอกเมือง 19.3 กม./ลิตร WLTC

    • ทางด่วน 21.2 กม./ลิตร WLTC




อัตราประหยัด 4WD



    • อัตราสิ้นเปลือง 17.8 กม./ลิตร WLTC

    • อัตราประหยัดในเมือง 14.4 กม./ลิตร WLTC

    • นอกเมือง 17.8 กม./ลิตร WLTC

    • ทางด่วน 19.8 กม./ลิตร WLTC




SUZUKI Fronx ด้านหน้าได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจาก Grand Vitara ใหม่ทั้งหมดในตลาดอินเดีย อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตามมันยังอยู่บนตัวถัง Baleno ส่วนหน้าได้รับแถบโครเมียมกว้างตัดผ่านกระจังหน้าขนาดใหญ่ Maruti Suzuki กล่าวว่า Fronx ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยมีด้านหน้าและด้านหลังตั้งตรง ไฟท้ายแบบ LED พร้อมแถบเชื่อมต่อกัน กันชนหลังออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วดีไซน์สปอร์ต

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 3,995 มม.

  • กว้าง 1,765 มม.

  • สูง 1,550 มม.

  • ระยะฐานล้อ 2,520 มม.

  • พื้นที่เก็บสัมภาระ 308 ลิตร

  • ขนาดถังน้ำมัน 37 ลิตร


ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบทูโทน ระบบสาระบันเทิง SmartPlay Pro ระบบอินโฟเทนเมนท์ 9 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay และแผงหน้าปัดที่คล้ายกับ Baleno ที่ชาร์จในรถยนต์แบบไร้สายแ เบาะหนังเทียม

  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง

  • ปุ่ม Start-Stop

  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง

  • เบาะหลังแยกส่วน 60:40

  • รองรับอัพเดทแบบ over-the-air

  • เซ็นเซอร์ถอยจอด

  • กล้อง 360 องศา

  • ถุงลมนิรภัยคู่

  • ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านนิรภัย





Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *